การเลือกขนาด BTU แอร์ ให้เหมาะกับขนาดห้องและการใช้งาน

BTU เป็นหน่วยสากลที่ใช้วัดขนาดความเย็นของแอร์ โดยปกติแล้วขนาดของแอร์ในท้องตลาดที่ขายกันจะมีขนาด BTU เริ่มต้นตั้งแต่ 8,000 BTU เป็นต้นไป ค่า BTU ยิ่งสูง ความสามารถในการทำความเย็นยิ่งมาก หรือความสามารถในการถ่ายเทความร้อนออกจากห้องได้มาก ทั้งนี้ยิ่งแอร์ที่มีขนาด BTU สูง ราคาก็สูงตามไปด้วย 

สาเหตุที่ต้องเลือกขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง

การเลือกขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง หากเลือกไม่เหมาะสมจะมีผลเสียดังนี้

กรณีเลือก BTU แอร์ ต่ำเกินไป

แน่นอนว่า BTU ต่ำ การทำความเย็นก็จะช้า และความเย็นห้องจะไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ โดยจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานตลอดเวลา ซึ่งจะยิ่งสิ้นเปลืองพลังงาน ค่าไฟแพงขึ้น หากทำงานต่อเนื่องนานๆ อายุการใช้งานของเครื่องสั้นลง เครื่องเสียเร็วขึ้นเนื่องจากการทำงานที่ Overload โดยผู้ผลิตอาจจะปฏิเสธการรับประกันสินค้า เนื่องการการใช้งานที่ผิดประเภท

กรณีเลือก BTU แอร์ สูงเกินไป

หลายคนอาจจะอยากซื้อแอร์ตัวใหญ่เผื่อไว้ เพราะคิดว่าแอร์ตัวใหญ่ ยิ่งเย็นไว ยิ่งดี ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องซะทีเดียว การใช้แอร์ที่ขนาดใหญ่เกินไปหรือ BTU สูงเกินความจำเป็นของขนาดห้อง จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อยเกินไป ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลง และที่สำคัญจะทำให้ภายในห้องมีความชื้นสูง ส่งผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สบายตัว และราคาแพงเกินความจำเป็น

ตารางเปรียบเทียบ BTU แอร์ กับขนาดห้อง

ขนาด BTU แอร์ห้องทั่วไป/ห้องนอน (ตร.ม.)ห้องโดนแดด/ห้องทำงาน (ตร.ม.)
9,000 BTU10-14 ตร.ม.9-13 ตร.ม.
12,000 BTU14-18 ตร.ม.13-17 ตร.ม.
18,000 BTU22-26 ตร.ม.20-24 ตร.ม.
21,000 BTU26-30 ตร.ม.24-28 ตร.ม.
25,000 BTU31-35 ตร.ม.26-30 ตร.ม.
30,000 BTU38-42 ตร.ม. 35-39 ตร.ม.
36,000 BTU46-50 ตร.ม.44-47 ตร.ม.

ตารางเบื้องต้นนี้เป็นตารางเปรียบเทียบขนาด BTU แอร์ ที่เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน โดยเป็นการเทียบกับห้องมาตรฐานทั่วไป ทั้งนี้หากผู้ใช้งานใช้ห้องเพื่อจุดประสงค์อื่นๆเช่น ร้านอาหาร ร้านทำผม ร้านค้า หรือ ห้องประชุมสัมมนา ซึ่งส่งผลให้ความร้อนภายในห้องสูงกว่าปกติ การเลือกขนาดแอร์ สามารถใช้สูตรคำนวณ ดังนี้

BTU = พื้นที่ห้อง X ตัวแปร ; [พื้นที่ห้อง (ตร.ม.)= ความกว้าง(ม.) X ความยาว(ม.)]

ตัวแปรสำหรับใช้คำนวณ BTU

  • 750 ; สำหรับห้องนอน/ห้องที่ใช้งานทั่วไป ที่ไม่ค่อยโดนแดด หรือมีต้นไม้บัง
  • 800 ; สำหรับห้องนอน/ห้องที่ใช้งานทั่วไป ที่โดนแดดมาก
  • 850 ; สำหรับห้องทำงาน/ห้องรับแขก ที่ไม่ค่อยโดนแดด หรือมีต้นไม้บัง
  • 900 ; สำหรับห้องทำงาน/ห้องรับแขก ที่โดนแดดมาก
  • 950-1,100 ; สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร สำนักงาน ที่ไม่ค่อยโดนแดด หรือมีต้นไม้บัง
  • 1,000-1,200 ; สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร สำนักงาน ที่โดนแดดมาก
  • 1,100-1,500 ; สำหรับห้องประชุม สัมมนา หรือร้านอาหารที่ใช้ความร้อนสูงเช่น ร้านปิ้งย่าง/ชาบู

โปรแกรมคำนวณหา BTU อัตโนมัติ

หาขนาด BTU แอร์จากความกว้าง/ความยาวห้อง

กรอกความกว้าง และความยาวในช่องว่าง (หน่วยเป็นเมตร) และเลือกประเภทห้อง โปรแกรมจะคำนวณขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานตามขนาดห้องให้อัตโนมัติ

BTU-Air Con

หาขนาด BTU แอร์จากพื้นที่ห้อง

กรอกพื้นที่ห้อง (หน่วยเป็นตารางเมตร) และเลือกประเภทห้อง โปรแกรมจะคำนวณขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานตามขนาดห้องให้อัตโนมัติ

BTU-Air Con-By-sqm

เมื่อได้ขนาด BTU ที่แนะนำแล้ว สามารถเลือกซื้อแอร์โดยสามารถสูง-ต่ำได้เล็กน้อย แต่ไม่ควรเกิน 1,000 BTU ทั้งนี้หากห้องมีขนาดใหญ่หรือมีการใช้งานหนัก อาจจะจำเป็นต้องติดแอร์มากกว่า 1 ตัว หรือกั้นห้องเพื่อไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป

Chalita C.

Chalita C.

Chalita is an engineer and an experienced real estate investor. She has Master Degree in IT and Management (MIT-MBA) from James Cook University, Singapore.

Her blog contents cover in-depth guidelines that help real estate investors in Thailand.