การซื้อบ้านถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต คนส่วนมากมักจะซื้อบ้านด้วยการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เนื่องจากสามารถทำการตัดสินใจซื้อบ้านได้เลย โดยไม่ต้องรอเก็บเงินให้ได้หลายล้านบาทก่อน อย่างไรก็ตามการยื่นขอกู้บ้าน ก็จะมีหลายปัจจัยที่ทางธนาคารใช้พิจารณา ซึ่งผู้กู้จำเป็นต้องเตรียมตัวให้ดีก่อน เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติเงินกู้เต็มจำนวน
1. ตรวจสอบเครดิตบูโร
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยดำเนินการขอสินเชื่อใดๆ และอาจจะคิดว่าไม่มีประวัติติดเครดิตบูโรแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนการยื่นขอสินเชื่อบ้าน ขอแนะนำให้ลองตรวจสอบประวัติเครดิตบูโรของตนเองดูก่อน เนื่องจากบางครั้งชื่อของคุณอาจถูกหยิบยืมไปทำธุรกรรมโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ หรือคุณอาจจะลืมไปแล้วว่าเคยมีหนี้บัตรเครดิตไม่กี่สิบบาท หรืออาจจะถูกมิจฉาชีพใช้ชื่อคุณไปเปิดบัตรเครดิตหรือขอสินเชื่อบางประเภท การตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเอง จะไม่ทำให้เสียประวัติแต่อย่างใด โดยสามารถตรวจสอบประวัติเครดิตบูโรได้ง่ายๆด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชั่น
2. สร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี
หากคุณเคยทำการขอสินเชื่อมาก่อนหน้านี้ ทางธนาคารจะทำการตรวจสอบประวัติจากเครดิตบูโร ว่าคุณมีประวัติการชำระหนี้ตรงเวลาและครบถ้วนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้านหลังอื่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่มีประวัติเสีย ก็จะถือว่าได้คะแนนเต็มไปในข้อนี้ แต่ถ้าคุณเคยมีประวัติค้างชำระ จ่ายช้า ก็ควรทำการเคลียร์หนี้สินทั้งหมดก่อนการขอสินเชื่อรอบใหม่อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปี และหากคุณเคยมีประวัติหนี้เสีย การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อก็อาจจะมีเงื่อนไขที่มากขึ้น
3. หากไม่เคยมีประวัติการขอสินเชื่อ ควรสมัครบัตรเครดิตก่อนการยื่นขอสินเชื่อ
หลายๆคนอาจจะคิดว่าการไม่มีประวัติกู้หนี้ยืมสินเลย ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่สถาบันการเงินมองเรื่องนี้ในมุมที่ต่างออกไป สำหรับผู้พิจารณาให้สินเชื่อนั้น การไม่มีประวัติทำให้ไม่สามารถเห็นพฤติกรรมการชำระหนี้ได้ ซึ่งอาจจะส่งผลไม่ค่อยดีกับการพิจารณาขอสินเชื่อ ดังนั้นก่อนการยื่นขอสินเชื่อบ้าน ผู้กู้จึงควรสมัครบัตรเครดิตซักใบ และทำการซื้อของผ่านบัตรด้วยการผ่อนชำระ 0% และจ่ายเงินเข้าบัตรเครดิตให้ตรงเวลาซักระยะหนึ่ง เพื่อให้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี
4. สร้างประวัติการเดินบัญชีและออมเงินสม่ำเสมอ
นอกจากธนาคารจะตรวจสอบเครดิตบูโรแล้ว ธนาคารก็จะตรวจสอบรายการเดินบัญชีและประวัติการออมของคุณด้วย ทางธนาคารมักจะขอตรวจสอบสเตทเมนท์ รายการเดินบัญชีจากบัญชีรายได้เป็นระยะเวลา 6-12 เดือน ซึ่งในช่วงระยะเวลานี้ผู้กู้ควรเดินบัญชีให้ชัดเจน แสดงรายได้และต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายโดยไม่หักลบกลบหนี้ และควรแสดงให้เห็นว่าในบัญชีมีเงินออมอยุ่เสมอ โดยมีเงินเหลือในบัญชีอย่างน้อย 3 เท่าของจำนวนเงินผ่อนชำระรายเดือนเสมอ
5. ไม่ทำการสร้างหนี้ก้อนอื่นก่อนยื่นขอสินเชื่อ
ในช่วงก่อนการยื่นกู้ คุณควรหลีกเลี่ยงการขอสินเชื่ออื่นๆ เนื่องจากจะทำให้กระทบวงเงินการขอสินเชื่อได้ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องยื่นขอกู้บ้านในขณะที่ทำการผ่อนชำระรายการอื่นอยู่ ก็ต้องทำการคำนวณให้ดีว่า รายได้ของคุณมีเพียงพอกับการขอสินเชื่อครั้งใหม่นี้ด้วย