8 วิธีรวยด้วยอสังหาริมทรัพย์ หลากหลายวิธีการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูง

ไม่มีเศรษฐีคนไหนไม่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เเละตามสถิติแล้วเศรษฐีที่รวยจากอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนที่มากที่สุดในโลก เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ราคาจะปรับขึ้น และยังสามารถทำกำไรได้จากการปล่อยเช่าในระหว่างที่รอขาย จึงถือว่าได้กำไรสองต่อ แต่อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็มีความเสี่ยงในด้านของสภาพคล่อง เพราะทรัพย์สินอาจจะไม่สามารถปล่อยขายได้ในทันทีที่ต้องการ ใครที่สนใจลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ควรเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะกับตนเองทั้งในด้านของความเสี่ยงที่รับได้ และเงินลงทุนเริ่มต้น โดยหลักๆแล้วหนทางรวยด้วยอสังหาฯ มีดังนี้ 

1. การทำงานเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

การเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จะหารายได้จากการเป็นตัวกลางปิดการขายหรือเช่าทรัพย์สิน โดยส่วนใหญ่จะได้รับค่านายหน้า 3% จากยอดขาย ซึ่งเป็นเรทมาตรฐานของวงการนายหน้า แต่หากมีนายหน้าหลายฝ่ายช่วยกันประสานงานเพื่อปิดการขาย ค่านายหน้าในส่วนนี้ก็ต้องแบ่งส่วนกันตามตกลง ถึงแม้ว่างานนี้จะไม่ต้องใช้เงินลงทุนในเบื้องต้น แต่ต้องใช้ทักษะการเจรจา การประสานงาน มีความอดทนและความสม่ำเสมอในการดำเนินงานจนปิดการขาย และนอกจากนี้ยังมีต้นทุนแฝงที่นายหน้าต้องจ่าย โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะได้รับเงินจากการทำงานหรือไม่ คือค่าดำเนินการโปรโมทขายหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในส่วนออนไลน์และป้ายติดตามสถานที่ต่างๆ และค่าเดินทางไปทำงานในทุกครั้ง  อย่างไรก็ตาม หากสามารถปิดการขายหรือเช่าได้สำเร็จ ก็จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า หลายๆคนสามารถรวยจากอาชีพนายหน้าได้เลยทีเดียว 

2. เก็งกำไรจากการขายใบจอง

วิธีนี้นับเป็นการลงทุนระยะสั้นที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ผู้ลงทุนต้องศึกษาเรื่องทำเล ชื่อเสียงโครงการ รอบการทำกำไร ช่วงเวลาที่เหมาะสม บางคนใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถทำกำไรได้หลักหมื่นถึงหลักแสน โดยเฉพาะโครงการคอนโดยอดฮิตที่มีจำนวนผู้ที่ต้องการจองมากกว่าจำนวนห้องที่เปิดขาย การเก็งกำไรจากใบจองต้องใช้ต้นทุนประมาณ 20,000 – 100,000 บาท และทำกำไรได้ประมาณ 10% – 40% ส่วนมากนิยมเก็งกำไรในระยะเวลาไม่กี่เดือน และยิ่งขายได้ไวยิ่งดี เพราะไม่ต้องเสี่ยงในส่วนของภาระค่าผ่อนดาวน์ ค่าโอนกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ก็มีความเสี่ยงในกรณีที่ขายต่อไม่ได้ ซึ่งทำให้ต้องยอมขายเท่าทุนหรืออาจขาดทุนได้

3. เก็งกำไรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อขายต่อ

วิธีการนี้ใช้เงินลงทุนสูง และแน่นอนว่ามีแนวโน้มได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน แต่ผู้ลงทุนต้องมีความรอบรู้ในพื้นที่ที่ลงทุน ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน คอนโด และต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมการซื้อขายให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ที่ทางรัฐบาลกำหนดให้ทางผู้ขายเป็นผู้จ่ายเมื่อทำการขายออกภายใน 5 ปีนับจากวันที่ซื้อมา ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์ในตลาด ผู้ที่มีความรู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ อาจจะสามารถทำกำไรได้หลายเท่าตัวภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี

4. การลงทุนเพื่อปล่อยเช่ารายเดือนและรายวัน

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการปล่อยเช่า ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และทำให้ผู้ลงทุนมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยส่วนมากจะมีความคาดหวังให้มีผลตอบแทนจากการเช่ามากกว่าผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร การลงทุนในรูปแบบนี้สามารถทำได้ทั้งที่ดิน บ้าน คอนโด อพาร์ทเมนท์ ตึกออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของบ้าน อพาร์ทเมนท์ และคอนโดสำหรับเช่ารายเดือนและรายวัน โฮสเทล ที่ดินสำหรับเช่าเพื่อการเกษตร แบ่งล็อคที่ดินให้เช่าทำตลาดนัด ให้เช่าโกดัง พัฒนาศูนย์การค้าให้เช่าพื้นที่ พื้นที่ตึกออฟฟิศให้เช่า และอื่นๆ โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 5% – 10% ต่อปี ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์ในการทำกำไร และทำเลศักยภาพ

5. ซื้อบ้าน-คอนโดเก่ามารีโนเวทเพื่อขายหรือปล่อยเช่า

การลงทุนในรูปแบบนี้นิยมเรียกกันว่า Fix and Flip หรือ Flipping โดยเคล็ดลับสำคัญที่จะทำกำไรให้ได้มากที่สุด คือการได้ทรัพย์สินมาในราคาที่ถูกที่สุด นักลงทุนหลายรายที่รวยจากวิธีนี้โดยการประมูลทรัพย์สินมาจากกรมบังคับคดีหรือรับซื้อบ้านและคอนโดเก่าที่สภาพดูไม่ได้ แต่โครงสร้างยังแข็งแรง ได้มาในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาดมากๆ และนำมาซ่อมแซมตกแต่งใหม่ในราคาต้นทุนที่ไม่แพง ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากอสังหาฯได้อย่างชาญฉลาด

6. เป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

นักลงทุนหลายรายได้เริ่มลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มาแล้วในระดับหนึ่งและเห็นโอกาสในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเป็นเจ้าของโครงการเอง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านและห้องแถวขายโดยเริ่มจากไม่กี่ยูนิตและพัฒนาต่อเป็น ที่ดินจัดสรร หมู่บ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียม หลายๆท่านอาจจะคิดว่าวิธีนี้ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาลแต่จริงๆแล้วมีหลากหลายเคล็ดลับซึ่งทำให้นักลงทุนใช้เงินตัวเองน้อยที่สุด เช่น การร่วมลงทุนกับเจ้าของที่ดิน หรือการเปิดจองก่อนเริ่มโครงการเพื่อนำเงินมาหมุนเวียน วิธีการนี้หากสามารถปิดการขายได้ครบตามเป้าหมาย จะสามารถสร้างกำไรให้ผู้ลงทุนได้ 40% – 100% เลยทีเดียว

7. ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ คือกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่นโครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม อพาร์ทเมนท์ ศูนย์การค้า พื้นที่ให้เช่าเพื่อธุรกิจ คลังสินค้า นิคมอุตสาหกรรม และอื่นๆ โดยกองทุนเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 6% – 10% หลักหักค่าใช้จ่าย แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันตลาดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อาจไม่ให้ผลตอบแทนที่ดีเท่าในอดีต

8. ลงทุนในหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์

อีกวิธีที่น่าสนใจแต่มีความเสี่ยงไม่น้อย คือการลงทุนในหุ้นของบริษัทมหาชนที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ผู้ลงทุนต้องมีความรู้ในการลงทุน ศึกษางบการเงิน ผลประกอบการที่ผ่านๆมา โครงการที่กำลังดำเนินงาน ชื่อเสียงที่ผ่านมา ภาวะตลาดในปัจจุบัน และปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะสามารถทำกำไรจากการลงทุนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

การลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นเดียวกับการลงทุนในด้านอื่นๆ ซึ่งผู้ลงทุนควรให้ความใส่ใจในการศึกษาหาความรู้และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าได้ลงทุนลงแรงไปกับสินทรัพย์ที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าให้กับผู้ลงทุนได้

Vijittra M.

Vijittra M.

Vijittra is an entrepreneur, a marketer and a content writer. Contributing to LandPro website's growth, she authors detailed guides that help people to understand about real estate tips in Thailand.

Vijittra has an MBA from Asian Institute of Technology and worked with Singapore based tech company, SEA Group prior to co-founding Nepal101, a boutique adventure company based in Bangkok.